กฎเหล็ก 3 ข้อ ที่ชาวเกษตรกร ควรรู้ไว้ ก่อนจะสายเกินไป
แน่นอนว่าอาชีพใดก็ล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พนักงานบริษัท ธุรกิจส่วนตัว จนกระทั่งอาชีพเกษตรกร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในช่วงนี้ คือ การปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่นสับปะรด ที่มีราคาตกต่ำอย่างมาก จนเกษตรกรต้องตัดใจขายลูกละบาท กันเลยทีเดียว ดังนั้น ทางเพจจึงมี กฎ 3 ข้อ เพื่อให้ชาวเกษตรท่องจำกันให้ขึ้นใจ รับรองว่าถ้าทำตามได้อาชีพเกษตรกรของคุณไม่มีล้มอย่างแน่นอน และเป็นการทำการเกษตรอย่างยั่งยืนอีกด้วยค่ะ
กฎข้อที่ 1 ปลูกหลายๆอย่าง
ก่อนที่จะลงมือปลูกพืชชนิดใดนั้นเราต้องมีความรู้ ว่าพืชที่ปลูกนั้นมีลักษณะเฉพาะอะไร ต้องการน้ำแบบไหน อากาศแบบไหน เหมาะกับพื้นที่ ที่เราจะนำมาปลูกหรือไม่ ซึ่งการปลูกหลายๆอย่างเป็นการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 มาใช้ให้เกิดประโยชน์
ถ้าเราปลูกพืชเพียงอย่างเดียว หรือที่รู้กันว่า การปลูกพืชเชิงเดี่ยว ในอนาคตข้างหน้าเราจะมีพืชอย่างเดียวไว้ขาย แล้วถ้าหากพืชชนิดนี้ราคาตกหล่ะ ดังเช่นวิกฤติสับปะรดถูกที่ได้ยกตัวอย่างไป เช่นนี้เราจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเราจึงต้องกระจายความเสี่ยงในการปลูกพืชหลายชนิด เช่นถ้าสับปะรดราคาตก เราก็ยังมีกล้วย มี มะละกอ ในไร่ เพื่อขายสร้างรายได้ได้ กฎข้อนี้ยังครอบคลุมไปถึงการทำปศุสัตว์ด้วยนะคะ
กฎข้อที่ 2 ออกห่างความโลภ
สมมุติคุณมีที่ดิน 10 ไร่ แนะนำให้ แบ่งที่ดินมาซัก 2 ไร่ มาลองผิดลองถูกดูก่อน ในกรณีที่คุณพึ่งเริ่มทำเกษตร เนื่องจากถ้าคุณทำเกษตรทีเดียว 10 ไร่เลย ถ้าเกิดความผิดพลาด เกิดความเสียหายขึ้นมา คุณจะเสียทั้งเงินทุน เสียเวลา เสียแรงกำลัง ไปเยอะเลยนะคะ แนะนำให้เริ่มทำแต่น้อยๆก่อน แล้วพอเริ่มฝึกปรือฝีมือมีประสบการณ์แล้วค่อยขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่เสียหายอะไร อย่าโลภมากเด็ดขาด
กฎข้อที่ 3 เติบโตด้วยการทำการตลาด
ข้อนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเกษตรกรส่วนมาก ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย รู้แต่การทำเกษตร ทำอย่างไรให้ได้ผลผลิต แล้วการหาตลาดหละ ผลิตมาแล้วจะมีคนซื้อของคุณหรือเปล่าก็ไม่รู้ โดยปกติเกษตรกรจะขายผลผลิตให้กับพ่อค้าคนกลาง จากนั้นพ่อค้าคนกลางจะไปขายต่อกับผู้บริโภค ซึ่งในความเป็นจริงเกษตรกรอย่างเราก็สามารถขายผลผลิตให้กับผู้บริโภคได้โดยตรงได้เลย และจะไม่โดนกดราคาอีกด้วย
โดยช่องทางการขายสมัยนี้ก็มีเยอะแยะไปนะคะ เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ยูทูป หน้าเว็ปต่างๆ ก็เปิดให้ใช้บริการได้ฟรี ผู้บริโภคท่านใดสนใจเราก็สามารถติดต่อตกลงราคากับเกษตรกรได้เลย ถ้าเกษตรกรอย่างเราๆสนใจเทคโนโลยีให้มากกว่านี้หน่อย รับรองไปได้สวยแน่นอนค่ะ
แอดมินขอยกตัวอย่าง บ้านไร่ไออรุณ จ. ระนอง เป็นการทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว นอกจากจะปลูกผักแล้ว ยังทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว ประยุกต์แปลงผักเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก เรียนรู้วิถีชีวิตการทำเกษตร อีกทั้งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางเกษตรจากในสวนมาทำอาหารต้อนรับนักท่องเที่ยว และ จำหน่ายเป็นของฝาก โดยทำการตลาดเองในโลกออนไลน์ ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากเลยค่ะ
สรุปกฎเหล็ก 3 ข้อ คาถาประจำใจ ของเกษตรกร มีดังนี้
” ปลูกหลายอย่าง ออกห่างความโลภ เติบโตด้วยการทำการตลาด “
อย่าลืมท่องจำกันให้ขึ้นใจแล้วนำไปปฏิบัติให้ได้นะคะ รับรองว่าเกษตรกรไทยเรา จะไม่ถูกดูถูก ไม่โดนเอารัดเอาเปรียบ และลืมตาอ้าปากเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมั่นคงแน่นอนค่ะ ท่านใดทำแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืม เข้ามาเล่าเรื่องราวแชร์ประสบการณ์ ให้ เพจ วิชาชีวิต ฟังบ้างนะคะ ทางเพจพร้อมจะเป็นเพื่อนคู่คิด และรับฟังทุกปัญหา และความสำเร็จของคุณค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : ยูทูป ชาแนล COCONUT Thailand , บ้านไร่ ไออรุณ จ. ระนอง
เกษตรยั่งยื่น