แนะนำ 5 อาชีพเกษตรกรลงทุนไม่เกิน 5,000 บาท หากถูกเลิกจ้าง ก็เริ่มทำได้เลย

แนะนำ 5 อาชีพเกษตรกรลงทุนไม่เกิน 5,000 บาท หากถูกเลิกจ้าง ก็เริ่มทำได้เลย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าเศรษฐกิจบ้านเราตอนนี้ไม่ดีเอามากๆ หลายบริษัทฯปลดพนักงานออกเป็นว่าเล่น แม้แต่บริษัทฯใหญ่ที่มั่งคงก็ไม่เว้น วันนี้จึงขอเชิญชวนทุกคนมาเตรียมตัวเตรียมพร้อมถ้าวันใดที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเราขึ้นมาจะได้มีอาชีพอื่นรองรับค่ะ โดย 5 อาชีพที่แนะนำนี้ ลงทุนน้อยมาก ใช้ทุนไม่เกิน 5,000 บาทก็ทำได้เลย

อาชีพเพาะถั่วงอกในโอ่ง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1.โอ่ง ขนาดความสูง 1.5 ฟุต กว้าง 1 ฟุต

2.เมล็ดถั่วเขียวเกรดเอ

3.ใบสะแกสด

4.ไม้ไผ่สำหรับขัด

5.กะละมัง

6.กระสอบป่าน

วิธีการทำ

1.นำโอ่งที่เตรียมไว้มาเจาะรูขนาดเท่านิ้วก้อย 2 ที่ก้อนโอ่ง

2.จากนั้นนำเมล็ดถั่วเขียว มาแช่น้ำในกะละมังประมาณ 5 ชั่วโมง

3.ให้นำเมล็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำไว้เรียบร้อยแล้วใส่มาใส่ลงในโอ่ง 2 กิโลกรัม แล้วคลุมทับด้วยกระสอบ ทิ้งไว้เป็นเวลา 1 คืน รากจะเริ่มงอก

4.จากนั้นนำใบสะแกสดมาคลุมไว้ด้านบนเมล็ดถั่วเขียวแล้วเอาไม้ไผ่ขัดไว้ด้านบน แล้วรดน้ำทุกวัน 4 เวลา

5.เมื่อครบ 3 วัน ถั่วงอกจะโตเต็มที่ได้ถั่วงอกขาวอวบมาจำหน่ายแล้วค่ะ

การลงทุน

>ถั่วเขียวเกรดเอ ราคากิโลกรัมละ 60 บาท

>โอ่งขนาด 1 ฟุต ราคาไม่เกิน 500 บาท

 

อาชีพเลี้ยงปลาหมอ

วิธีการทำ

1.เริ่มจากการขุดบ่อ ขนาด 10*20 เมตร ลึก 2 เมตร

2.ต่อมาทำการปรับสภาพดิน โดยโรยปูนขาวที่ก้นบ่อ แล้วทิ้งบ่อไว้ 7 วัน จากนั้นค่อยสูบน้ำลงบ่อ

3.ปล่อยลูกปลาหมอลงบ่อ โดยปล่อยประมาณ 5,000 ตัวต่อบ่อ โดยก่อนจะปล่อย ให้สูบในบ่อให้มีระดับ 120 เซนติเมตร เมื่อมีลูกปลาอายุ 2 เดือน จึงค่อยเพิ่มระดับน้ำขึ้นเป็น 140 เซนติเมตร เมื่อลูกปลามีอายุ 3 เดือน เพิ่มระดับน้ำขึ้นเป็น 180 เซนติเมตร และเมื่อครบเดือนที่ 4 ให้เพิ่มระดับน้ำเป็น 2 เมตร

4.การให้อาหารปลา ควรให้อาหารเมื่อลูกปลามีอายุได้ 7 วัน โดยในระยะ 1 เดือนแรก ให้วันละ 4 ครั้ง เมื่อขนาดปลาหมอได้ตามต้องการค่อยส่งขาย

ความต้องการของตลาด

โดยส่วนใหญ่จะมีคนมาจับถึงบ่อเลี้ยง ราคาขายดังนี้

ไซส์ 4-5 ตัว/กิโลกรัม ขายที่กิโลละ 60 บาท

ไซส์ 7-9 ตัว/กิโลกรัม ขายที่กิโลละ 40 บาท

ไซส์ 2-3 ตัว/กิโลกรัม ขายที่กิโลละ 80 บาท

การลงทุน

แนะนำให้ซื้อพันธุ์ปลาหมอชุมพร1 ขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตร (ไซซ์ใบมะขาม) ราคาตัวละ 80 สตางค์

อาชีพเพาะต้นอ่อน

การเพาะต้นอ่อนหรือไมโครกรีน เป็นต้นกล้าที่มีการเจริญเติบโตต่อมาอีกระยะหนึ่งหลังจากที่รากพึ่งอกออกมา โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเจริญเติบโตประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีลำต้นอวบและมีใบจริง 2-3 ใบ หลังจากที่ใบขยายเต็มที่ก็พร้อมที่จะเก็บเกี่ยว

วิธีการเพาะ

1.นำขวดโกลแก้วปากว้าง ปิดด้วยตะแกรงซี่ถี่ แล้วใช้เมล็ดเกรดเอปราศจากเชื้อ แช่ลงไปในน้ำสะอาดนาน 8-12 ชั่วโมง

2.เมื่อครบเวลาแล้วให้เทน้ำออก แล้ววางโหลแกล้วในลักษณะเอียง ถ่ายน้ำเข้าออกวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ

3.เมื่อเวลาผ่านไป3-7 วัน ก็จะได้ต้นอ่อนพร้อมจำหน่าย ทำการแพคใส่ถุงจำหน่ายได้เลย ก็จะได้ต้นอ่อนพร้อมจำหน่าย

เมล็ดพันธุ์ที่นิยมนำมาเพาะต้นอ่อน เช่น ทานตะวัน ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง แมงลัก กะเพรา โหระพา เป็นต้น

การลงทุน

เมล็ดต้นอ่อนถุงละประมาณ 40-60 บาท (บรรจุ 500-600 เมล็ด)

อาชีพเพาะเห็ดฟางในตะกร้า

วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1.หัวเชื้อเห็ดฟาง

2.ฟางข้าว

3.ตะกร้าพลาสติก

4.ขี้เลื่อย

วิธีทำ

1.นำฟางแช่น้ำ 1 คืน แล้วผึ่งแดดให้เหลือความชื้น 10%(บีบแล้วไม่มีน้ำหยด)

2.นำฟางใส่ลงที่ก้นตะกร้า แล้วโรยขี้เลื่อยตามลงไป ตามด้วยเชื้อเห็ดฟาง ทำเป็นชั้นแบบนี้เรื่อยๆจนเต็มตะกร้า

3.ขั้นสุดท้ายครอบตะกร้าด้วยถุงพลาสติก เพื่อรักษาความชื้น

4.เมื่อผ่านไป 9-12 วันจะเริ่มเห็นดอกเห็ด (ช่วงวันที่4-9 ห้ามเปิดถุง เพราะเห็ดจะไม่โต)

5.เมื่อเห็ดออกดอก จะได้เห็ดราว 2 กิโลกรัม

การลงทุน

ตะกร้าใบละ 40 บาท

หัวเชื้อเห็ด 15 บาท (ทำได้ 2 ตะกร้า)

อาชีพปลูกกะเพรา-โหระพาขาย

กะเพราและโหระพา ถือเป็นผักที่ดูแลง่าย ปลูกง่าย เก็บขายได้ทั้งปี ไม่ต้องการดูแลมาก เมื่อตัดกิ่งเก่าทิ้งกิ่งใหท่จะแตกออกมา

วิธีการทำ

เมื่อตัดมาให้ล้างน้ำ แล้วเด็ดช่อ เด็ดใบออก แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ อาจใช้ฝาชีหงายในการผึ่ง วันหนึ่งเก็บได้ 7-8 กิโลกรัม

ความต้องการของตลาด

กะเพราและโหระพา ราคากิโลกรัมละ 40 บาท

ขอบคุณข้อมูล : sentangsedtee