จากพนักงานบัญชี กลับบ้านมาทำเกษตร มีความสุขมากกว่าตอนทำงานประจำอีก
ได้ยินมาบ่อยเหลือเกิน กับการออกจากงานประจำมาทำเกษตร บางคนไปได้ดีกับเส้นทางอาชีพเกษตรกร แต่บางคนก็ต้องวกกลับไปทำงานประจำตามเดิม ทำไมบางคนทำสำเร็จ ทำไมบางคนล้มเหลว วันนี้ เพจวิชาชีวิต มีเคสตัวอย่างการออกจากงานประจำมาทำเกษตรมาให้ชมกัน ทำอย่างไรถึงสำเร็จในเส้นทางอาชีพนี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของ คุณ ผกามาศ เพิ่มแสงสุวรรณ อดีตพนักงานบัญชี ที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ มีนิสัยชอบปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรก แรกเริ่มเดิมทีนั้นปลูกผักสวนครัวแบบง่ายๆไว้ที่บ้านพักในเมืองกรุง ปรากฏว่าเจริญเติบโตได้ดีมาก และ สามารถนำมาประกอบอาหารช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อกับข้าวได้ในระดับหนึ่ง คุณ ผกามาศ มีบ้านเกิดอยู่ที่ จ.ราชบุรี ปกติจะกลับบ้านไปทุกวันหยดสุดสัปดาห์ จึงเริ่มไปทดลองปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ขึ้นที่บ้านเกิด เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ
ปลูกไปปลูกมาทำให้มีพืชผักหลายชนิด และ พืชที่เธอปลูกนั้นเจริญงอกงามอย่างยิ่ง เธอเริ่มสนใจการเกษตรมากขึ้น จากทำเป็นงานอดิเรกกลายเป็นศึกษาการเกษตรให้ถ่องแท้ ทดลองปลูก ทดลองตลาด ไปเรื่อยๆ ทำไปควบคู่กับงานประจำก่อน เริ่มต้นแรกๆอาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องทำงานเหมอนไม่มีวันหยุด แต่พอได้เห็นรายได้เข้ามา 2 ทาง ก็รู้สึกหายเหนื่อยเลย เพราะรู้สึกว่ามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น จนเธอหลงรักและตัดสินใจออกจากงานมาในที่สุด เพื่อทำการเกษตรเต็มตัว
โดยการเกษตรที่ คุณ พกามาศ ทำนั้นเป็นการเกษจรแบบอินทรีย์ คือ ไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย ให้ธรรมชาติดูแลกันเอง จนในที่สุด สวนของเธอก็เป็นสวนแบบผสมผสานแบบครบวงจร จะเห็นว่าแนวทางการทำเกษตรของ คุณ พกามาศ นั้นไม่ใช่ว่าอยู่ๆเบื่องาน คิดจะออกมาทำก็ทำเลยไม่มีการวางแผนให้ดี แต่สิ่งที่ คุณ พกามาศ ทำนั้นคือค่อยๆเริ่มทำจากเล็กๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และ วางแผนในการดำเนินการมาก่อนแล้ว จึงช่วยลดความเสี่ยงจนเกิดผลสำเร็จ
โดยในไร่ของเธอ มีการเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช ทำปุ๋ยอินทรีย์ เหลือจากการใช้ที่ไร่ก็นำไปขายได้
ไร่ของ คุณ พกามาศ มีอะไรบ้าง…?
1. ผักสวนครัวที่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง มะนาว ตะไคร้ พริก ถั่วฝักยาว
2.เห็ดหลินจือ เพาะไว้ทำ น้ำเห็ดหลินจือ จำหน่ายให้คนรักสุขภาพได้ดี
3.เลี้ยงสัตว์ : วัวนม ไก่ไข่ และ เป็ด
โดย ไร่ของ คุณผกามาศ ชื่อว่า ไร่ทรงสุวรรณ ได้รับที่นิยมจากผู้รักสุขภาพมาก เพราะสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าอินทรีย์ และยังมีน้ำเห็ดหลินจือ ที่ทางไร่ทำเอง ราคาพอจับต้องได้ สำหรับผู้มีรายได้ไม่มาก
รายได้ที่ได้ เฉลี่ยตกเดือนละ ไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น เพราะสินค้าเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ นั้นมีราคาสูงกว่าท้องตลาด เพราะ เป็นที่ต้องการของคนรักสุขภาพ ฐานลูกค้ากลุ่มนี้ค่อนข้างมีกำลังซื้อ จึงทำให้สามารถขายในราคาที่สูงได้ ส่วนการตลาดนั้น คุณ พกามาศ ได้ทำการตลาดเองสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้สามารถกำหนดราคาขายได้เอง ไม่โดนกดราคา และ สินค้ามีคุณภาพส่งตรงถึงมือลูกค้าโดยตรง
สินค้าเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์นั้นยังถือว่าเติบโตได้อีกมาก เพราะ การเพาะปลูก และ ดูแลรักษา ต้องใช้ความใส่ใจอย่างมาก ในการเพาะปลูก เกษตรกรบางส่วนเท่านั้นที่เริ่มหันมาทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจ และ ยอมรับสินค้าในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด
เกษตรอินทรีย์โดย คุณ พกามาศ
ขอบคุณข้อมูล : คุณ พกามาศ , เทคโนโลยีชาวบ้าน