ไอเดียบรรเจิด “ธนาคารน้ำใต้ดิน” ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม
ภัยแล้งและน้ำท่วม ถือเป็นภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรที่ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป วันนี้จึงขอเสนอวิธีจัดการกับปัญหาดังกล่าวด้วยการทำ ธนาคารน้ำใต้ดิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ ช่วยในการระบายน้ำออกได้เร็วขึ้นในกรณีที่มีน้ำท่วม แต่แทนที่จะปล่อยน้ำระบายน้ำทิ้งไปเลย แต่นำน้ำนั้นมาเก็บไว้ ส่วนช่วงหน้าแล้งก็สามารถดึงน้ำที่เราเก็บไว้นั้นมาใช้ประโยชน์ได้ค่ะ
วิธีการทำ”ธนาคารน้ำใต้ดิน”สามารถทำได้หลายแบบ ตามความเหมาะสมของสถานที่และงบประมาณ
1.บ่อขนาดใหญ่สำหรับใช้ในชุมชน
ทำการขุดบ่อขนาด 5*5 เมตร ขุดให้ลึกถึงชั้นดินเหนียว โดยให้ก้นบ่อมีขนาดเล็กกว่าปากบ่อ โดยให้ขอบบ่อมีความลาดเอียง 45 องศา ตรงกลางก้นบ่อให้ขุดหลุมกว้างประมาณ 1 เมตร โดยให้ลึกทะลุชั้นดินเหนียวลงไปอีก แล้วทำการใส่หินกับทรายหยาบเพื่อเป็นตัวกรองและดึงน้ำลง ถ้าจะทำเป็นระบบปิดให้ใส่หินกับทรายจนเต็มบ่อแล้วปลูปหญ้าทับด้านบน
เมื่อทำแบบนี้ไว้ประมาณหนึ่งปี จะเริ่มเห็นผลชัดเจนว่าจะมีน้ำใต้ดินเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่รอบบ่อ 1 ตารางไมล์ เลือกเจาะบาดาลโดยให้สังเกตทิศทางการไหลของน้ำใต้ดินตามแรงเหวี่ยงของโลก(เหนือไปใต้ ตะวันตกไปตะวันออก) โดยห่างจากบ่อที่ดึงน้ำลงประมาณ 10-20 เมตร เมื่อทำการเจาะลงไปก็จะพบกับแหล่งน้ำบาดาลเพียงพอสำหรับการใช้ในหน้าแล้ง
1.บ่อขนาดเล็กสำหรับใช้ในครัวเรือน
ทำการขุดบ่อขนาด 2*2 เมตร ขุดให้ลึกประมาณ 1-1.5 เมตร จากนั้นให้นำเศษวัสดุเหลือใช้จำพวก ยางรถยนต์ ก้อนอิฐ ขวดพลาสติก กระป๋องน้ำ นำมาปูรองก้นบ่อไว้
ในส่วนของด้านบนปากบ่อให้ใช้ตะแกรงผ้าคอยเป็นตัวกรองเศษดินเศษหินที่จะไหลลงสู่บ่อด้านล่าง ผลปรากฏว่าเมื่อใดที่ฝนตกหนักน้ำจะไหลลงไปในบ่ออย่างรวดเร็ว ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังที่เกษตรกรเคยประสบได้เป็นอย่างดี
การทำธนาคารน้ำใต้ดินนี้ ได้ริเริ่มจาก อบต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา ที่นำประสบการณ์ความรู้มาทำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน แล้วประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องก็พบว่า น้ำที่เคยท่วมขังในเวลาที่ฝนตกหนักจะไหลลงสู่บ่อธนาคารน้ำใต้ดินภายใน 10 นาที แตกต่างเมื่อก่อนที่กว่าน้ำจะระบายออกหมดต้องใช้เวลประมาณ 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
จากผลสำเร็จนี้ หากทำธนาคารน้ำใต้ดินเพิ่มมากขึ้น ในช่วงฤดูแล้งพื้นที่ต่างๆจะสามารถนำน้ำขึ้นมาใช้สามารถดื่มกินและทำการเกษตรได้ ส่วนหน้าฝนตกชุกก็ไม่ต้องกลัวน้ำท่วมอีกต่อไปแล้ว
ขอบคุณข้อมูล :pantip.com, nwnt.com, thairath