สาวนครพนมทิ้งงานครีเอทีฟรายการทีวี ผันสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ ทำสวน มะม่วงหาว มะนาวโห่

สาวนครพนมทิ้งงานครีเอทีฟรายการทีวี ผันสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ ทำสวน มะม่วงหาว มะนาวโห่

สาวนครพนมโบกมือลางานครีเอทีฟรายการโทรทัศน์กลับบ้านเกิด สานความฝันของพ่อ ทำสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ในช่วงแรกๆ ก็ท้อเพราะทำไม่เป็น แต่เพราะใจสู้ ลองผิดลองถูกจนทำให้วันนี้มีผลผลิตขายทั้งผลสด และแปรรูปหลากหลายผลิตภัณฑ์ เผยมีสรรพคุณทางยา ตลาดยังเปิดกว้าง

“ฟาร์มนพรัตน์” บ้านสมบูรณ์ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เป็นอีกกรณีตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ผันชีวิตตัวเองจากงานครีเอทีฟรายการทีวี สู่การทำการเกษตรแบบใหม่ที่ใช้หลักในการตลาดผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ควบคู่กับการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของลูกค้า เป็นการสานต่อการทำสวนปลูก “มะม่วงหาว มะนาวโห่” จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

นางสาวภัทรฤทัย พรมนิล วัย 31 ปี เจ้าของฟาร์มนพรัตน์เล่าถึงจุดกำเนิดของไร่มะม่วงหาวมะนาวโห่ เริ่มมาจากที่คุณพ่อป่วยแล้วเห็นว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่มีสรรพคุณทางยาชั้นเลิศที่จะมาช่วยในการรักษา แต่หารับประทานได้ยากมาก รวมถึงมีราคาแพง จึงได้หามาปลูกในพื้นที่ของตนเองที่มีอยู่ประมาณ 4 ไร่ จำนวน 300 ต้น และ เมื่อคุณพ่อเสียชีวิตตนเองก็อยากสานต่อความฝันในส่วนนี้ของพ่อ จึงตัดสินใจลาออกจากงานครีเอทีฟ หันมาทำการเกษตรอย่างเต็มตัวภายใต้แนวคิดพ่อปลูกลูกสร้างต่อ

ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็ยอมรับว่ามีท้อแท้บ้าง เนื่องจากไม่เคยทำ และไม่เข้าใจในกระบวนการเจริญเติบโต การดูแลรักษา แต่ก็พยายามอดทนเรียนรู้ ศึกษาหาความรู้ทั้งจากตำราเรียนอินเทอร์เน็ต ผู้รู้ และหน่วยงานราชการแล้วนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไร่มะม่วงหาวมะนาวโห่ จนมีผลผลิตที่มีคุณภาพอย่างเช่นทุกวันนี้ ซึ่งในไร่จะเน้นการดูแลบำรุงเป็นแบบอินทรีย์ทั้งหมด

เช่น การบำรุงดินให้มีรูพรุนเพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ง่าย ก็จะใช้ถ่านไบโอชาร์ ที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่อีกอย่างที่ทางจังหวัดนครพนม กำลังให้สนับสนุน สามารถผลิตได้ง่ายๆ จากเศษไม้ใบไม้ใบหญ้าที่มีอยู่ ปุ๋ยก็ใช้ปุ๋ยคอก และหัวใจที่สำคัญในการทำให้มะม่วงหาวมะนาวโห่ออกลูกดกก็คือ การตัดแต่งกิ่งจึงต้องหมั่นเอาใจใส่ในส่วนนี้

เมื่อได้ผลผลิตมาก็มีการวางแผนการตลาด ซึ่งก็ได้นำเอาความรู้จากการเป็นครีเอทีฟมาใช้ในการออกแบบ เริ่มตั้งแต่การสร้างจุดสนใจ เมื่อไปออกบูทขายนั้น ก็คือโลโก้คุณลุงใจดีที่มีลูกๆ 3 คนยืนเกาะอยู่ด้านหลัง ตามมาด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์มะม่วงหาวมะนาวโห่ให้มีความหลากหลายบนแพกเกจที่สวยงาม มีคุณภาพได้มาตรฐาน รสชาติอร่อยประมาณ 20 กว่าอย่าง

น.ส.ภัทรฤทัย บอกอีกว่า นอกจากการขายลูกสด เช่น การแปรรูปเป็นน้ำหวานเป็นชา เป็นแยมเบเกอรี่ เค้กชีสพาย สบู่เจลอาบน้ำ แชมพู และอื่นๆ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะมีการแปรรูปเป็นแคปซูลผงสกัดพร้อมชงดื่ม และสเปรย์ฉีดแผลให้ลูกค้า ที่สำคัญคือ มีการสำรองผลผลิตไว้ให้ลูกค้าในช่วงหน้าหนาวด้วย

เนื่องจากช่วงดังกล่าวผลผลิตจะมีเฉพาะทางภาคใต้เท่านั้นจึงทำให้ลูกค้ามีผลผลิตรับประทานได้ตลอดทั้งปี

“ขณะนี้ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะแพทย์แผนไทยประยุกต์ ในการศึกษาวิจัยมะม่วงหาวมะนาวโห่เพื่อใช้ทำเป็นยารักษาแผลเรื้อรังผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยเบาหวาน และโรคอื่นๆอีกด้วย”

การเข้าร่วมโครงการ Young SmartFarmer ของกรมส่งเสริมการเกษตร ทำให้มีโอกาสดีๆ หลายๆ อย่างได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากคนอื่น และนำแนวคิดเหล่านั้นมาต่อยอดสินค้าของตนเอง สำหรับการทำแปลงมะม่วงหาวมะนาวโห่นั้นจะอยู่ที่ 300 ต้นเท่าเดิม

แต่จะใช้ระบบการมีลูกสวนแทน โดยเน้นให้มีเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อกระจายรายได้ให้แก่คนในชุมชน รวมถึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งขณะนี้มีลูกสวนเข้าร่วมแล้วถึง 5 พันต้น และในอนาคตก็ยังคงรับเพิ่มต่อไปอีกทั้งจะมีการเปิดรับซื้อผลผลิตมาแปรรูปเพื่อเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขยายฐานการตลาดเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเพื่อการส่งออกจึงไม่แปลกที่อนาคตมะม่วงหาวมะนาวโห่จะก้าวสู่ Thailand4.0 ได้อย่างสวยงาม

ชมคลิปของคุณ ภัทรฤทัย : www.youtube.com/watch?v=nA5DU0lndUw

Facebook Comments

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *