ค้นพบวิธีโดยบังเอิญขวดกับดักแขวนไม่นานเข้ามาเต็มขวด

ค้นพบวิธีโดยบังเอิญขวดกับดักแขวนไม่นานเข้ามาเต็มขวด

หนึ่งในศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายให้พืชผักผลไม้ลำดับต้นๆต้องมีชื่อ แ ม ล ง วั น ท อ ง อยู่ในนั้นแน่นอน โดยสามารถส่งผลกระทบได้ทุกส่วนตั้งแต่ ใบ ดอก ผล รวมไปถึงรากด้วย

พืชผักผลไม้ที่มักโดนเจาะ ได้แก่ ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ กระท้อน น้อยหน่า เป็นต้น มักพบได้มากในช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงผลไม้มันออกผลผลิต จึงส่งผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างมากทีเดียว

วันนี้จึงขอนำเสนอวิธีการทำกับดักแ ม ล ง วั น ท อ งแบบใหม่ ซึ่งค้นพบวิธีนี้โดยบังเอิญ โดย คุณ Mac Pongphan ได้สังเกตว่าเมื่อตากผ้าแล้วอยากให้เสื้อผ้าหอมกว่านี้ จึงนำน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ฟอกกี้มาฉีดให้ทั่วผ้าที่ตากไว้แล้วพบว่าแ ม ล ง วั น ท อ งต่างเข้ามารุมตอมผ้า จึงคิดไอเดียทำกับกับดักแมลงวันทองจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งเมื่อได้ลองใช้แล้วได้ผลดีเจ้าตัวกวนใจเข้าไปเต็มขวด ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมากๆทำตามได้ทุกคน

วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. น้ำยาปรับผ้านุ่ม

2. ขวดน้ำพลาสติกเหลือใช้

3. เศษผ้าหรือสำลี

4. ด้ายหรือเอ็น

วิธีการทำ

1. เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการนำขวดพลาสติกเหลือใช้มาเจาะรูให้ทั่วขวด โดยเว้นช่วงก้นขวดที่ไม่ต้องเจาะรูขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร การเจาะรูเพื่อระบายให้กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มโชยไปทั่ว

2. จากนั้นให้เจาะช่องเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ช่องนี้จะเป็นทางเข้าของแมลงวันทองที่จะบินเข้ามาในกับดักขวด

3. ขั้นต่อมาให้เทน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ลงไปในขวด ให้พอดีกับช่วงก้นขวดที่เว้นการเจาะรูไว้ แล้วนำขวดไปแขวนไว้ตามต้นไม้ที่มักโดนแ ม ล ง วั น ท อ งเข้าทำลายผลผลิต

4. ขั้นตอนสุดท้ายให้นำเศษผ้าหรือสำลีมาม้วนเป็นก้อนแล้วผูกด้วยเชือก ทิ้งสายยาวลงมาประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วนำไปจุ่มกับน้ำยาปรับผ้านุ่มจนชุ่มดี ทำการยึดเชือกที่ห้อยเศษผ้ากับฝาขวดไว้เพื่อเป็นตัวล่อแ ม ล ง วั น ท อ ง

5. แ ม ล ง วั นท อ งเมื่อได้กลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มก็จะบินเข้าสู่กับดักขวดแล้วจะตกลงในน้ำยาปรับผ้านุ่มที่รองไว้ด้านล่างขวดในที่สุด ทิ้งไว้ไม่นานก็จะพบว่าเจ้าตัวกวนใจลอยเต็มขวดแล้วค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติม

สำหรับใครที่ไม่สะดวกใช้น้ำยาปรับน้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็สามารถเปลี่ยนตัวล่อเป็นใบหรือดอกกะเพราได้ นำมาขยำให้ออกกลิ่นแล้วจึงนำไปใส่ในขวดเพื่อทำเป็นกับดักก็ได้ผลดี เนื่องจากแ ม ล ง วั น ท อ งก็ชื่นชอบกลิ่นของกะเพราเช่นกันค่ะ

เป็นวิธีการง่ายๆที่ไม่ต้องใช้ส า ร เ ค มี อั น ต ร า ยก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน และส่งผลดีต่อเกษตรกรและผู้บริโภคอีกด้วยค่ะ ลองไปทำกันดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูล : คุณ Mac Pongphan

เรียบเรียง : Postnoname

Facebook Comments

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *