วางระบบน้ำหยดแก้ปัญหา “ภัยแล้ง” ปลูกผักอะไรก็โต… ใช้ได้นานถึง 20 ปี
การปลูกผักนั้น ใช่ว่าทุกพื้นที่จะปลูกได้เลย เพราะบางพื้นที่ก็มีสภาพอากาศแห้งแล้ง ไม่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของพืช หากมีที่ดินแห้งแล้งก็ยากที่จะปลูกอะไรได้ ที่ดินที่แห้งแล้งเพาะปลูกอะไรไม่ได้เลยก็ดูจะไร้ค่าในทันที แต่หาากเราศึกษาดูดีๆแล้วจะพบว่า ในหลายๆส่วนของโลกก็มีพื้นที่แห้งแล้ง แต่ก็ยังสามารถเพาะปลูกได้ เพราะอะไร…?
นาย กฤษณะ สิทธิหาญ ได้นำเอาแนวคิดการปลูกพืชแบบระบบน้ำหยดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในพื้นที่แห้งแล้ง เป็นการแก้ปัญหาและต่อสู้กับภัยแล้งอย่างได้ผล โดย คุณ กฤษณะ ได้ทดลองจัดวางระบบน้ำหยดบนพื้นที่ 1 ไร่ ของตนเอง ทำให้ผืนดินที่แห้งแล้งกลับมาปลูกพืชได้ และ ยังให้ผลผลิตดีอีกด้วย
สาเหตุที่คิดค้นระบบน้ำหยดนี้ขึ้นมา เพราะพื้นที่ของตนนั้นปลูกสับปะรดซึ่งอยู่บนพื้นที่สูง พอถึงเวลาฝนตกพื้นดินไม่อุ้มน้ำ เมื่อข้าสู่ฤดูแล้งมักจะขาดน้ำเป็นประจำ ทำให้เพาะปลูกอะไรได้ยาก แต่ระบบน้ำหยดนี้จะช่วยให้ดินชุ่มน้ำตลอดเวลา
เพราะเราต่อท่อไปตามแนวแปลงปลูก และ หยดน้ำลงไปสู่หน้าดินโดยตรง เราสามารถวางระบบน้ำหยดกำหนดจุดที่จะหยดน้ำให้ตรงกับจุดที่พืชเจริญเติบโตขึ้นก็ได้ ทำให้ดินบริเวณที่เพาะปลูกมีความชุ่มชื่นตลอดเวลา อีกทั้งเวลาเราจะใส่ปุ๋ยให้พืชเราไม่ต้องไปเดินฉีดตามแปลง แค่ผสมลงไปในถังพักน้ำของระบบน้ำหยด แล้วน้ำที่เราหยดลงแปลงก็จะนำพาปุ๋ยไปเอง แก้ปัญหาดินแห้งแล้ง และ เพิ่มความสะดวกเวลาให้ปุ๋ยได้อีกด้วย
ขั้นตอนการทำมีดังนี้
1.เริ่มจากเทปูนเพื่อเป็นฐานสำหรับวางถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร บนแท่นสูง 1.5 ม. ด้านล่างวางถัง 200 ลิตร สำหรับสำรองไว้จ่ายน้ำกับใช้ผสมปุ๋ยและยา
2.ทำการต่อท่อพีวีซีขนาด 1 นิ้วครึ่ง จากข้างบนลงมาข้างล่าง และต่อด้วยท่อส่งน้ำจากข้างล่างไปสู่ถังบน
3.จากนั้นใช้ปั๊มหอยโข่งขนาด 1 นิ้ว 0.5 แรงม้า วางให้เป็นระบบหมุนเวียน เพื่อให้น้ำจากถังล่างขึ้นไปถังบนก็ได้ หรือจะปล่อยให้น้ำถังบนไหลลงสู่ถังล่างก็ได้ โดยใช้ระบบวาล์วเปิดและปิดประมาณ 6-7 ตัว
4. จากนั้นต่อท่อเข้ากับท่อยางอ่อนของระบบน้ำหยด โดวยส่วนของระยะการเจาะรูน้ำหยดจะขึ้นอยู่กับพืชนั้นๆที่จะปลูก เช่น ถ้าปลูกข้าวโพดมีระยะห่าง 20 ซม. หรือปลูกผักจะมีระยะห่าง 30 ซม. ผักกอใหญ่หรือแตงต่างๆห่างประมาณ 60 ซม. เป็นต้น
5.หากมีทุนเพิ่ม ควรลงทุนใช้พลาสติกสีดำขนาด 30 ไมครอน มาคลุมทับแปลงผักอีกที จะทำให้วัชพืชจะหมดไปโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี และช่วยรักษาความชื้นในดินได้ด้วย
ระบบการให้น้ำพร้อมปุ๋ยนี้ จะใช้งบลงทุนประมาณ 20,000 บาท สามารถใช้ได้ในพื้นที่ 1 ไร่ กับอายุการใช้งาน ประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นไป
โดยอายุการใช้งานอุปกรณ์หลักๆจะมีอายุการใช้งานดังนี้
-ท่อยางอ่อนน้ำหยด อายุการใช้งานได้ประมาณ 5-10 ปี
-ส่วนตัวถังกับระบบท่อพีวีซี ใช้ได้นานถึง 20 ปี
-พลาสติกดำ อายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน
หากเกษตรกรท่านใดมีพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ สามารถเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆได้ตามขนาดของไร่ด้วยการเพิ่มจำนวนท่อพีวีซี หรือ เพิ่มชุดระบบน้ำ ก็อาจจะต้องเพิ่มงบประมาณไปอีก แต่ถ้ามองว่าลงทุนในระยะยาว ไม่ต้องไปซื้อที่ดินใหม่ แต่เอาที่ดินเก่าที่ไม่สามารถปลูกได้มาวางระบบนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่นาสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูล : ไทยรัฐ , คุณ กฤษณะ
ระบบน้ำหยด