วิธีเลี้ยงปูนาในบ่อปูน เลียนแบบธรรมชาติ ขายได้ราคาดี
ในอดีตปูนากับนาข้าวเป็นของคู่กัน สมัยก่อนชาวนานิยมนำปูนามาใช้ประกอบอาหาร เพราะหาได้ง่ายมากตามธรรมชาติ แต่การทำนาสมัยนี้มักใช้สารเคมี ทำให้ปัจจุบันปูนาที่อาศัยอยู่ตามนานั้นใกล้จะสูญพันธ์แล้ว สังเกตได้จากการออกไปหาเก็บปูนาตามธรรมชาตินั้นจะหาได้ยากมาก ส่วนปูดองที่เราเห็นใส่ในส้มตำนั้นเป็นปูแสม จึงเกิดการเพาะเลี้ยงปูนาไว้เป็นอาหาร และ ขายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำเงินให้เกษตรกรได้ไม่น้อย เรามาดูกันดีกว่าเขามีวิธีเลี้ยงกันอย่างไร
เริ่มต้นจากการเตรียมบ่อ การเลี้ยงปูนาในบ่อซีเมนต์นั้นมีข้อดีคือ ดูแลง่าย ปูไม่ไต่หนี ใช้พื้นที่น้อย ลงทุนน้อย ( สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อปูนขนาดใหญ่ และ วงบ่อปูนขนาดเล็ก แต่การทำวงบ่อปูนขนาดเล็กจะใช้ต้นทุนในการทำบ่อที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นเลี้ยงจากน้อยๆก่อน ) นำวงบ่อปูนมาตั้ง แนะนำให้ตั้งในที่ร่ม เพราะปูไม่ชอบอากาศร้อน แล้วต่อท่อระบายน้ำออกด้านล่าง เทปูนปิดที่ฐานบ่อ ปล่อยทิ้งไว้ 3 วันรอให้ปูนเซ็ตตัวและแห้งสนิท
เมื่อปูนเซ็ตตัวจนแห้งแล้วเติมน้ำใส่บ่อจนเต็มบ่อ ใส่ต้นกล้วย และ เกลือสินเทา ลงไปแช่ทั้งไว้ 7-15 วัน ( ต้นกล้วยช่วยชะล้างฝุ่นฝงปูนที่เคลือบอยู่ตามผิวของวงบ่อปูนออก และ กำจัดปรับค่า PH ในบ่อให้สมดุล ส่วนเกลือนั้นช่วยกำจัดเชื้อโรคต่างๆในบ่อ เป็นวิธีการทำความสะอาดบ่อที่มีประสิทธิภาพสูง )
เมื่อแช่น้ำทิ้งไว้ครบตามที่กำหนดไว้แล้วให้ถ่ายน้ำทิ้ง ล้างทำความสะอาดซ้ำอีกรอบ หลังจากนั้นให้นำ ดินเหนียว หรือ ดินโคลน มาใส่ลงในบ่อให้หนาประมาณ 20 เซนติเมตร หากะละมังหรือภาชนะที่ก้นไม่ลึกมากมาใส่น้ำแล้วฝังลงไปในพื้นดิน หรือทำพื้นดินให้ลาดเอียงลงไปหาแอ่งน้ำในบ่อ เป็นบ่อน้ำไว้ให้ปูได้ลงไปแช่น้ำเล่น
หาหลังคากระเบื้อง อิฐบล็อก มาวางไว้ในบ่อปูน ไว้สำหรับเป็นบ้านของปู หรือ ไว้ให้ปูหนีเข้าไปหลบเมื่อตกใจ โดยธรรมชาติแล้วถ้ามีอะไรที่เป็นรูขนาดพอดีตัว ปูจะเข้าใจว่าเป็นบ้าน ทำให้เข้าไปอยู่อาศัยตามสัญชาตญาณ เป็นการเลียนแบบสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด ช่วยลดความตึงเครียด เพิ่มโอกาสให้ปูอยู่รอดได้มากขึ้น
การปล่อยปูลงบ่อ พันธุ์ปูที่เหมาะสำหรับการนำมาเลี้ยงคือปูกำแพง เพราะมีขนาดใหญ่กว่าปูนาพันธุ์อื่น มีน้ำหนักตัวเยอะ ( ขนาดใหญ่เต็มที่ได้ถึงตัวละ 3 ขีด ) สำหรับการนำมาเลี้ยงนั้นสามารถหาซื้อ หรือ หาจับได้จากแหล่งธรรมชาติได้เลย
ตัวผูั และ ตัวเมีย ปล่อยลงบ่อประมาณครึ่งต่อครึ่ง
ข้อสังเกต
ปูตัวผู้ จะมีกล้ามใหญ่ มีแท่งยาวๆอยู่ตรงกลางหน้าท้อง
ปูตัวเมีย จะมีส่วนหน้าท้องกลมเป็นแผ่นเดียวกัน
ตามธรรมชาติปูนาจะเจริญพันธุ์ช่วงหน้าฝน ช่วงนี้จะทำให้แม่ปูเริ่มออกไข่ โดยแม่ปู 1 ตัว สามารถออกลูกได้ประมาณ 500 ตัว สามารถแยกไปบ่อใหม่ เพื่อเพาะพันธุ์เพิ่มได้อีก
อาหารที่นำมาเลี้ยงปูช่วงอายุ 15 วันแรกควรให้ไรแดง เทา หรือไข่ตุ๋น หลังอายุเกิน 15 วันให้ ปลาสับ อาหารเม็ดลูกปลาดุก หรือ หัวอาหารลูกอ๊อด และเสริมด้วยไข่แดงต้มคลุกข้าวได้ เพื่อประหยัดงบค่าอาหาร
ปูนามีการลอกคราบ หลังจากฟักเป็นตัวแล้วปูนาจะทำการลอกคราบประมาณ 13-15 ครั้ง ก็จะโตเป็นปูนาเต็มวัย สามารถได้ขนาดตามที่ท้องตลาดต้องการระยะเวลาก็จะอยู่ประมาณ 6-8 เดือนขึ้นไป
วิธีการสังเกตการลอกคราบของปูนา เมื่อใกล้จะลอกคราบปูจะอยู่นิ่ง เหยียดขาออกตรงทั้งสองข้าง ท้ายกระดองจะเปิดออก จะเห็นกระดองเก่าเริ่มลอกออก รอยต่อทางส่วนท้ายของกระดองก็จะเปิดออก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อลอกคราบเสร็จใหม่ก็จะกลายเป็นปูนิ่ม ให้เก็บมาล้างน้ำทำความสะอาดและนำไปแช่ฟรีซไว้พร้อมส่งขายต่อไป
ราคาจำหน่ายปูนา
ถ้าเป็นปูนานิ่มขายได้สูงถึง กก.ละ 1,000 บาท
จำหน่ายเป็นพ่อแม่พันธุ์ปูนาอยู่ที่ตัวละ 50 บาท
สำหรับปูขนาดอื่นก็จำหน่ายเป็น กก. ขึ้นอยู่กับขนาดตัว และ ความต้องการในแตะละพื้นที่
เลี้ยงปูนาในบ่อปูน