เผยสูตรเลี้ยงกุ้งแม่น้ำรวมในบ่อปูน กุ้งตัวใหญ่ ขายได้ถึง กก.ละ 800
การเลี้ยงกุ้งแม่น้ำในบ่อปูนขนาดใหญ่นั้น เป็นการเลี้ยงกุ้งที่ได้รับความนิยมมากกว่าบ่อขนาดเล็ก เพราะ สามารถเลี้ยงได้ทีละมากๆ ไม่ต้องสร้างบ่อหลายบ่อ ช่วยลดต้นทุนในการผลิต เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายในปริมาณมาก ยิ่งกุ้งแม่น้ำเป็นกุ้งที่มีความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาของกุ้งแม่น้ำนั้นขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อน กก.ละ 300-500 บาท แต่เดียวนี้สามารถขายได้ถึง กก.ละ 600-800 บาท หรือถ้าใครทำการตลาดดีหน่อย เลี้ยงแล้วเปิดร้านขายปลีกส่งเข้าหน้าร้านตัวเอง สามารถขายได้ถึง กก.ละ 800-1,400 บาทเลยทีเดียว
สำหรับการเลี้ยงก็ทำได้ไม่ยาก เริ่มต้นจากการก่อบ่อขึ้นจากอิฐบล็อกแบบง่ายๆ ( บ่อขนาดประมาณ 3×5 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร ) เดินท่อระบายน้ำ เทพื้น ฉาบปูนให้เรียบ บ่อควรตั้งไว้ในที่ร่มมีหลังคากันแดดกันฝน
ปล่อยไว้ประมาณ 3-5 วัน ให้ปูนเซตตัวจนแห้งสนิท เมื่อปูนแห้งสนิทแล้ว ให้เติมน้ำลงในบ่อจนเต็ม ใส่เกลือเล็กน้อย และ ต้นกล้วยลงไปแช่ไว้ประมาณ 7-14 วัน ( ต้นกล้วยช่วยปรับค่า PH ในบ่อให้สมดุล ชะล้างฝุ่นฝงปูนและสารตกค้างที่เคลือบอยู่ตามผิวของปูนออก ส่วนเกลือนั้นช่วยกำจัดเชื้อโรคต่างๆในบ่อ เป็นวิธีการทำความสะอาดบ่อที่มีประสิทธิภาพสูง )
หลังจากแช่น้ำต้นกล้วยครบตามกำหนดวันแล้ว ให้ถ่ายทิ้งแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ต่อไปเป็นการเตรียมน้ำในบ่อสำหรับเริ่มเลี้ยง เติมน้ำลงไปหว่านเกลือให้ทั่วบ่อ นำท่อ PVC จัดวางลงไปในบ่อสำหรับเป็นที่หลบและที่อยู่อาศัยของกุ้ง หาอิฐ หิน และ กระเบื้อง มาวางให้สูงพอพ้นผิวน้ำเล็กน้อย สำหรับให้กุ้งขึ้นมาลอกคราบ นำหัวทรายให้อ๊อกซิเจนไปวางไว้ที่มุมบ่อทั้งสี่มุม ปล่อยน้ำไว้ 48 ชั่วโมง ก่อนปล่อยพันธุ์กุ้งลงบ่อ
การคัดลือกพันธุ์กุ้ง ใช้ลูกกุ้งขนาดประมาณ 5 ซม. ราคาอยู่ที่ตัวละประมาณ 5-10 บาท ( สาเหตุที่ใช้ลูกกุ้งไซท์นี้เพราะ มีอัตราการเลี้ยงรอดที่สูงกว่า ถ้าขนาดเล็กกว่านี้อัตราการรอดจะน้อย ) พันธุ์กุ้งที่ดีควรมีการว่ายน้ำ ปราดเปรียว แข็งแรง สำหรับบ่อขนาด 3×5 เมตร จะปล่อยลูกกุ้งขนาด 5 เซน ประมาณ 200-300 ตัว/บ่อ
พันธุ์กุ้งพร้อม เตรียมบ่อเสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมปล่อยกุ้งลงบ่อแล้ว การปล่อยกุ้งลงบ่อนิยมทำตอนที่สภาพอากาศไม่ร้อนเกินไป เช่น ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น โดยนำพันธุ์กุ้งมาแช่ลงน้ำทั้งถุง ประมาณ 30 นาที ให้อุณหภูมิน้ำในถุงกับในบ่อใกล้เคียงกัน แล้วค่อยๆวิดน้ำในบ่อมาผสมในถุงที่บรรจุลูกกุ้งอยู่ทีละน้อยแล้วค่อยปล่อยกุ้งลงบ่อ เป็นการปรับสภาพกุ้งก่อนปล่อยลงน้ำ เพื่อไม่ให้กุ้งน๊อคตอนปล่อยลงบ่อ
ในวันแรกที่ปล่อยไม่ต้องรีบให้อาหารกุ้ง ค่อยให้ในวันถัดมา สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงลูกกุ้งในช่วงแรก ให้อาหารสำเร็จนรูปสำหรับลูกกุ้ง ประมาณ 5-6ช้อน หว่านรอบๆบ่อ ควรให้ช่วงเย็นหรือหัวค่ำ เพราะกุ้งเป็นสัตว์ขี้อายไม่ค่อยออกมาช่วงกลางวัน ( อย่าให้อาหารเยอะจนกุ้งกินไม่หมด เพราะจะทำให้น้ำเน่า )
สังเกตุดูหากกุ้งขึ้นมาลอกคราบบนกระเบื้องที่วางไว้ แสดงว่ากุ้งกำลังเจริญเติบโต มีขนาดใหญขึ้น ให้เปลี่ยนอาหารของกุ้งไปเป็น อาหารกุ้งขนาดกลาง และ อาหารกุ้งขนาดใหญ่ตามลำดับ
หลังจากเลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้ประมาณ 5-6 เดือน ก็จะมีขนาดตัวที่ใหญ่พอที่จะสามารถจับขายได้ แล้วแต่ขนาดและความต้องการของตลาด หากอยากขายได้ราคาก็ต้องเลี้ยงต่อไปอีกเพื่อให้ได้ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น แต่โดยปกติแล้วขนาดตัวที่เลี้ยงแล้วได้ราคาพอดีจุดคุ้มทุนค่าอาหารคือประมาณ 6-8 เดือน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
– อาหารที่ให้กุ้ง ให้เสริมด้วยอาหารเสริมสำหรับกุ้งเข้าไปด้วย กุ้งจะได้โตเร็ว
– เวลาให้อาหารต้องหมั่นสังเกตุว่าอาหารที่ให้ไปกุ้งกินหมด หรือ เหลือตกค้างในบ่อ และ ควรปรับปริมาณอาหารในครั้งถัดๆไปให้พอดีอย่าให้กุ้งกินเหลือ เพราะ จะทำให้น้ำเน่าเสีย
– ถ้าสามารถทำระบบน้ำวนได้จะดีมาก ถ้าไม่ทำระบบน้ำวนก็ต้องขยันเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ ( ถ้าน้ำเริมขุ้นให้เปลี่ยนทันที )
– ควรเติมผงแร่ธาตุลงไปในน้ำทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำ ( ผงแร่ธาตุจะช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็วขึ้น ทำให้กุ้งเพิ่มขนาดตัวได้เร็วขึ้น )
– อาหารพอดี น้ำสะอาดไม่เน่าเสีย ออกซิเจนในน้ำเพียงพอ
– ที่สำคัญอย่าไปส่องดูกุ้งบ่อย เพราะเป็นการรบกวนกุ้ง กุ้งแม่น้ำค่อนข้างชอบความส่วนตัวและความสงบ ถ้าไปส่องดูบ่อยๆกุ้งจะตกใจไม่กล้าออกมากินอาหาร
เลี้ยงกุ้งในบ่อปูนขนาดใหญ่
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เส้นทางเศรษฐี , shrimp center