ปลูกทุเรียนให้ได้ผลเร็ว ปลูกไว้แค่ 2 ต้น ก็เก็บไม่ทันแล้ว
ทุเรียนถือเป็นผลไม้รสอร่อยและเป็นที่โปรดปราณของใครหลายๆคน ที่สำคัญราคายังแพงมากๆอีกด้วย ยิ่งส่งขายออกต่างประเทศยิ่งได้กำไรหลายเท่าตัว แต่การจะปลูกทุเรียนให้ออกดอกออกผลเยอะๆนั้นก็ยากไม่แพ้กันบางท่านปลูกอย่างไรใส่ปุ๋ยแค่ไหนก็ไม่เห็นลูกเ สี ยที วันนี้จึงขอนำเสนอเคล็ดไม่ลับในการปลูกทุเรียนให้ออกดอกออกผลเยอะเต็มต้นจนเก็บไม่ทันเลยค่ะ
ดต.สุวรรณศักดิ์ แกนวงษา เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน แห่ง ต.ศรีแก้ว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ได้แนะนำการปลูกทุเรียนให้ได้ผลในภาคอีสานแบบละเอียด ดังนี้
รู้จักต้นทุเรียนกันก่อน
ทุเรียนเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ ชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอยู่ในช่วง 25 – 30 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์สูงประมาณ 75 -85 % ดินที่เหมาะสมควรระบายน้ำดีและมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง (ค่า pH)ประมาณ 5.5 –6.5 และที่สำคัญควรปลูกไว้ใกล้แหล่งที่มีน้ำเพียงพอตลอดในช่วงแล้ง
ทุเรียนจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากการปลูก 5 –6 ปี และช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูงประมาณระยะ 10 ปีขึ้นไป และให้ผลผลิตต่อต้นประมาณ 80 –110 ผล หรือประมาณ 250 -320 กก./ตัน/ปี (คิดน้ำหนักเฉลี่ยผลละประมาณ 3 กก.)
ทุเรียนเป็นไม้ผลที่มีระบบรากหาอาหารแบบตื้น โดยจะอยู่ลึกจากผิวดินประมาณ 20 -30 ซ.ม. ต้นทุเรียนที่สมบูรณ์สังเกตได้โดย มีใบยอดแก่ และผ่านช่วงแล้งเพียง 10 -14 วัน ทุเรียนจะเริ่มออกดอกและระยะพัฒนาของดอกจะใช้เวลาประมาณ 55 –60 วัน จากดอกบานจนถึงระยะเก็บเกี่ยว
ระยะดอกบาน-เก็บเกี่ยวของทุเรียนในแต่ละพันธุ์
พันธุ์กระดุม ระยะเก็บเกี่ยว 12 –13สัปดาห์ หรือประมาณ 90 วัน
พันธุ์ชะนี 15 -16 สัปดาห์ หรือประมาณ 110 วัน
พันธุ์หมอนทอง 18 – 19 สัปดาห์ หรือประมาณ 130 วัน
ฤดูกาลในการของผลผลิตทุเรียนในแต่ละภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ คือ ในช่วงเดือน มิถุนายน –สิงหาคม
ภาคตะวันออก คือ ในช่วงเดือน เมษายน –มิถุนายน
การเตรียมต้นทุเรียนก่อนออกดอก
นทุเรียนที่พร้อมก่อนการออกดอก หมายถึง ต้นทุเรียนที่มีการแตกใบอ่อนมาแล้วอย่างน้อย 1 ชุด มีการสังเคราะห์แสงและสะสมอาหาร ในรูปของสารประกอบคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอ และมีปริมาณใบบนต้นมากเพียงพอ โดยสังเกตได้จากเมื่อมองจากใต้ต้นขึ้นไป จะเห็นช่องว่างระหว่างใบในทรงพุ่มไม่เกินร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมดและใบส่วนมากหรือทั้งหมดเป็นใบแก่และกิ่งของแต่ละยอดเริ่มแก่(ยอดทุกยอดจะตั้งขึ้น)
ใบของต้นทุเรียนจะสมบูรณ์ มีสีเขียวแก่เข้มเป็นมัน จะถือเป็นต้นทุเรียนที่ได้รับการดูแลอย่างดี และพร้อมออกดอกแล้ว ช่วงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการออกดอกคือมีช่วงฝนทิ้งช่วง 10 –14วัน และอุณหภูมิและความชื้นของอากาศค่อนข้างต่ำ จะส่งผลให้ต้นทุเรียนออกดอกดีได้มากและออกสม่ำเสมอตลอดทั้ง
โดยการเตรียมสภาพความพร้อมของต้นเพื่อรองรับการออกดอกต้องดำเนินการดังนี้
การปลูกพืชอื่นแซมต้นที่ว่าง นั่นคือ การปลูกทุเรียนจะปลูกในระยะห่างพอสมควรในระยะ 8*8 เมตร และมีต้นที่เหลือรอดและต้นที่ไม่ ร อ ด และตรงช่วงระหว่างต้นทุเรียนที่ว่างไป ด.ต. สุวรรณศักดิ์ จะนำพืชชนิดอื่นมาปลูกแทน จำพวก มังคุด แก้วมังกร กล้วย เงาะ เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย
การตั ดแต่งผลอ่อนทุเรียน
การตั ดผลอ่อนต้องทำอย่างน้อย 3 ครั้ง เริ่มจากตัดแต่งผลอ่อนที่มีรูปทรง บิดเบี้ยว ผลเล็กแคระแกรนหรือต่างรุ่นออก ให้เหลือเพียงผลอ่อนที่มีลักษณะรูปทรงสมบูรณ์ ขั้วผลใหญ่ เท่านั้น ที่สำคัยการตัดแต่งผลอ่อนฬฯครั้งแรก ต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์ที่ 4 หลังจากดอกบาน โดยปริมาณผลที่เก็บไว้ต้องมีมากกว่าจำนวนผลที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณร้อยละ 20 และต้องทำการยับยั้งการแตกใบอ่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ทุเรียนแตกใบอ่อนในระหว่างพัฒนาการของผลอ่อน เพราะใบอ่อนที่แตกมาใหม่จะแย่งอาหารจากผลอ่อนได้และจะส่งผลเ สี ยต่อผลผลิตได้
การจัดการหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
เมื่อเก็บผลผลิตทุเรียนเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญจากนั้นคือต้องเตรียมความพร้อมของต้นเพื่อให้พร้อมต่อการออกดอกการติดผลในครั้งต่อไป ด้วยการตัดแต่งกิ่งและบำรุงต้นต่อไป
โดยสามารถตัดแต่งกิ่งโดยแบ่งได้ 3 ระยะ ดังนี้
ระยะแรก คือ การตัดแต่งหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยการตัดกิ่งแห้ง กิ่งแขนง กิ่งที่เป็น โ ร ค กิ่งที่ไร้ประโยชน และตัดขั้วผลที่ติดค้างจากการเก็บเกี่ยวอยู่ทิ้งไป การตัดแต่งครั้งที่หนึ่ง ทุเรียนจะเริ่มงอกกิ่งที่สมบูรณ์ใหม่ออกมา
ระยะที่สอง คือ การตัดแต่งช่วงปลายฝนก่อนการใส่ปุ๋ยในครั้งที่สอง เป็นการตัดแต่ง กิ่งน้ำค้าง กิ่งตะขาบ กิ่งกระโดง เพื่อทำให้ต้นทุเรียนทรงพุ่มโปร่งและปุ๋ยที่ใส่บำรุงต้นทุเรียนช่วงนี้ส่งผลไปถึงกิ่งที่สามารถให้ผลผลิตปุ๋ยที่ให้ในช่วงนี้จึงจะเกิดประโยชน์ต่อต้นทุเรียนอย่างเต็มที่
ระยะที่สาม คือ การตัดแต่งกิ่งหลังจากทุเรียนติดผลแล้วประมาณ 30-45 วัน เป็นการตัดแต่งเฉพาะกิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ที่เรียกว่า ใบขิง โดยทำพร้อมๆกับการตัดแต่งผลอ่อน เพื่อลดกรใช้อาหารในการสร้างกิ่งก้านใหม่ ธาตุอาหารที่ต้นดูดซึมเข้าไปจึงส่งไปที่ผลโดยตรง
ถือเป็นการปลูกทุเรียนที่บอกเคล็ดลับแบบหมดเปลือกกันเลยทีเดียว ใครสนใจอยากปลูกลองนำไปประยุกต์ใช้กันดูค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : kampangdin , ruangjringwannee
เรียบเรียงข้อมูล : Postnoname